ในยุคข้าวยากหมากแพงอย่างนี้ ผู้คนส่วนใหญ่พยายามลดค่าใช้จ่ายแล้วหันมาเก็บออมเงินกันมากขึ้น แต่ก็มีค่าใช้จ่ายสำหรับรถยนต์บางอย่างที่ต้องจ่ายตามการใช้งานหรือ ทุก ๆ 6 เดือน การลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถคันโปรดของคุณให้อยู่กับคุณไปให้นานที่สุด ไม่เสื่อมอายุการใช้งานเร็วเกินไป ถือเป็นคำตอบที่ดีสำหรับทุกท่านเพราะจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและยังช่วยให้คุณเก็บเงินไว้ในกระเป๋าได้มากขึ้นด้วย
สำหรับผู้ใช้รถทุกท่าน การดูแลรักษารถยนต์ถือว่า เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งครับ สิ่งแรกที่คุณจะได้รับคือช่วยยืดอายุการใช้งานรถของคุณ อันดับที่สองช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาให้ต่ำลงเพราะฉะนั้นแล้วในครั้งนี้เรามีวิธีดูแลรักษารถยนต์แบบง่าย ๆ แต่มีประสิทธิภาพมาฝากกับผู้อ่านทุกท่านครับ
1. แรงดันลมยาง
ตรวจง่าย ๆ ด้วยสายตาว่ายางทั้ง 4 เส้นนั้นแฟบอ่อนหรือไม่ ถ้าเป็นไปได้ให้ตรวจยางอะไหล่ด้วยนะครับ เพราะลมยางของแต่ละล้ออาจจะไม่เท่ากัน ซึ่งจะมีผลต่อการทรงตัวของรถ สังเกตได้ในขณะที่คุณขับขี่อยู่แล้วคุณแตะเบรก จะทำให้ตัวรถปัด ส่าย ซึ่งเป็นที่มาของอุบัติเหตุนั่นเอง และอาจจะทำให้อายุของยางสั้นลง คุณจึงอาจจะต้องควักเงินในกระเป๋าก่อนถึงเวลาอันควรด้วยนะครับ เพราะฉะนั้นถ้าพบว่าแรงดันลมยางไม่เท่ากันต้องเติมหรือตรวจวัดให้อยู่ใน ค่ามาตรฐานที่ผู้ผลิตกำหนดครับ.
2. รอยรั่วของน้ำและน้ำมันต่างๆ
สำหรับรอยรั่วต่างๆ นั้นคุณสามารถตรวจสอบด้วยสายตาได้ครับ ถ้าพบว่ารั่วที่ล้อและเป็นน้ำมันเบรก จะต้องงดใช้งานทันที และรีบปรึกษาช่าง และหากพบน้ำระบายความร้อนรั่วหรือหยด (สีชมพู) ให้หาที่มาของการรั่วให้พบ ถ้าเกิดจากข้อต่อให้คุณลองใช้ไขควงหรือประแจ ขันกดให้แน่น ถ้าเป็นรอยรั่วของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์หรือน้ำมันเฟืองท้ายก็อย่านิ่งนอนใจนะครับ เมื่อคุณมีเวลาให้รีบนำรถเข้ามาตรวจเช็คที่ศูนย์บริการ เพื่อความปลอดภัยต่อกลไกดังกล่าว ครับ
3. ระบบระบายความร้อน
วิธีตรวจเช็ค ก็ไม่ได้ยากเลยครับเพียงแค่เปิดฝาหม้อน้ำออก (ข้อควรระวัง : ต้องเปิดขณะเครื่องยนต์เย็นเท่านั้น) ถ้าพบว่าน้ำพร่องน้อยลงไปก็ให้หาน้ำที่สะอาดเติมลงไปให้พอดีกับระดับที่กำหนด สำหรับรถยนต์ที่ไม่มีฝาหม้อน้ำก็ให้ตรวจสอบที่หม้อพักน้ำได้เลยครับถ้าน้ำอยู่ในระดับที่กำหนดก็ไม่ต้องเติม แต่ถ้าต่ำก็ให้เปิดฝาแล้วเติมน้ำสะอาดให้เต็ม เรื่องน้ำระบายความร้อนอย่าละเลยนะครับ เพราะถ้าน้ำแห้งอาจจะส่งผลให้เครื่องยนต์ของคุณเสื่อมสภาพเร็วและอาจเสียหายมากได้นะครับ
4. น้ำมันเครื่อง
การดูแลรักษานั้น ต้องตรวจระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับที่กำหนด เพราะถ้าน้ำมันเครื่องพร่องหรือแห้งจะทำให้ เกิดการสึกหรอภายในเครื่องยนต์ วิธีตรวจระดับน้ำมันเครื่องก็ไม่ยุ่งยากอะไรเลย เพียงแค่ดึงเหล็กวัดออกมาเช็ดทำความสะอาดแล้วใส่กดลงไปยังตำแหน่งเดิม (ใส่ให้สุด) จากนั้นดึงออกมาตรง ๆ ในแนวดิ่ง ระดับน้ำมันจะสังเกตได้จากรอยคราบน้ำมันที่ เกาะอยู่ที่ปลายเหล็กวัด น้ำมันจะต้องอยู่ระหว่างกลางขีดที่มีอักษร L และ F ถ้าต่ำจาก L ก็ให้เติมให้อยู่ในระดับที่กำหนดและไม่ควรเติมจนเกินอักษร F เพราะจะทำให้ควันขาว เครื่องยนต์อืดเร่งไม่ออก และ อาจทำให้ซีลต่างๆภายในเครื่องยนต์ เสียหายได้อีกด้วยครับ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเครื่องยนต์เลยครับ เพราะฉะนั้นแล้วควรเติมให้พอดีตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตกำหนดครับเพื่อยืดอายุเครื่องยนต์และประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ครับ.
5. เบรก
การตรวจระดับน้ำมันเบรกนั้นถ้าระดับน้ำมันเบรกลดลงก็ให้คุณสันนิษฐานไว้ 2 กรณี 1.ผ้าเบรกหมด 2.น้ำมันเบรกรั่วที่จุดใดจุดหนึ่ง ให้รีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อให้ช่างได้ตรวจสอบโดยเร่งด่วน แต่ถ้าคุณจะเติมน้ำมันเบรกนั้นก็ให้ระวังน้ำมันเบรกหกราดโดนสีรถจะทำให้สีรถคุณเสียหายได้ แต่ถ้าหกก็ให้รีบใช้น้ำราดให้เจือจางให้เร็วที่สุดครับ ระบบเบรกนี้ถือว่าเป็นระบบที่สำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะนั่นคือชีวิตของคุณและครอบครับของคุณเลยนะครับ ถ้ามีปัญหาให้รีบแก้ไขให้เร็วที่สุดครับ.
การดูแลรถด้วยตนเองนั้นทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ใช้สายตาตรวจสอบเท่านั้นคุณก็จะทราบว่าจุดใดผิดปกติบ้าง และสามารถแก้ไขได้ทันท่วงที ก่อนที่จะบานปลายไปยังจุดอื่นๆ นอกเหนือจากการตรวจสอบรถด้วยตนเองแล้ว การนำรถเข้าเช็คระยะและเปลี่ยนอะไหล่ตามที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์กำหนดนั้น ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและยืดอายุการใช้งานรถยนต์คุณได้ ครับ ท้ายนี้ขอให้ผู้อ่านทุกท่านโชคดี และ มีความสุขกับการขับขี่รถยนต์แล้วพบกันใหม่ โอกาสหน้า สวัสดีครับ.
Cr. https://phithan-toyota.com/th/article/detail/1042/3